
ผัดดอกกุยช่ายใส่ตับ เมนูเสริมธาตุเหล็ก บำรุงเลือด
ผัดดอกกุยช่ายใส่ตับ เมนูเสริมธาตุเหล็ก บำรุงเลือด
ใครก็รู้ว่าสารอาหารที่อยู่ในตับล้วนอุดมไปด้วยธาตุเหล็กซึ่งเป็นสารอาหารที่จำเป็นและมีประโยชน์ต่อร่างกาย และเมนูผัดที่เหมาะสมกับการนำตับไปประกอบอาหารและนิยมทำทานกันเองที่บ้าน แถมยังทำได้ง่ายทานได้ทุกคนก็คือ ผัดดอกกุยช่ายผัดตับถือว่าเป็นการรวบรวมวัตถุดิบและเครื่องปรุงในการประกอบอาหารที่ลงตัวที่สุด แถมยังสามารถทำทานได้ทุกวัน อร่อยง่ายได้ด้วยตัวเอง ทานได้พร้อมหน้าทั้งพ่อแม่ลูกเลยทีเดียว
ส่วนประกอบและเครื่องปรุงในการประกอบอาหาร
1.ดอกกุยช่ายหรือดอกไม้กวาดที่หลาย ๆ คนนิยมเรียก
2.ตับหมู
3.ซอสหอยนางรม
4.น้ำปลา
5.น้ำตาลทราย
6.น้ำซุป
7.น้ำมันพืช
8.กระเทียมสับ
วิธีทำ
1.นำตับหมูสดมาล้างให้สะอาดเพราะตับหมูเป็นเครื่องในดังนั้นก่อนที่เราจะนำมาประกอบอาหารจึงควรล้างด้วยน้ำให้สะอาดเสียก่อน โดยเทคนิคในการล้างตับหมูให้สะอาดยิ่งขึ้นให้คุณล้างในน้ำที่มีการไหลผ่าน เช่น เปิดน้ำก๊อกและล้างตับหมูสดพร้อมกับลูบทำความสะอาดตับหมูอย่างเบามือ ทั้งนี้ก็จะช่วยทำให้ตับหมูสะอาดขึ้นและยังไม่เละหรือช้ำอีกด้วย หากตับหมูเละหรือช้ำจะทำให้สีของตับหมูคล้ำลง เมื่อนำมาผัดก็จะทำให้ได้สีที่ไม่สวยงาม ตับมีสีดำคล้ำ ไม่เหมาะแก่การนำมาผัด จากนั้นหั่นเป็นชิ้นขนาดพอดีคำ
2.หั่นดอกกุยช่ายออกเป็นชิ้นพอดีคำ โดยไม่ต้องหั่นยาวมากนัก เพราะหากหั่นดอกกุยช่ายยาวจนเกินไปอาจทำให้ดอกกุยช่ายสุกช้า หรือสุกไม่ทั่วกันได้
3.แกะเปลือกกระเทียมโดยเลือกใช้กระเทียมประมาณ 5-7 กลีบและสับให้ละเอียดหรือหากใครที่มีเครื่องปั่นหรือเครื่องบดก็สามารถใช้เครื่องปั่นหรือเครื่องบดได้
4.เปิดไฟ ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันพืชลงไปเพียงเพื่อเป็นตัวหล่อลื่นป้องกันไม่ให้ส่วนผสมและเครื่องปรุงต่าง ๆ ติดกระทะเท่านั้น จากนั้นเมื่อเห็นว่ากระเทียมเริ่มสุกและเปลี่ยนเป็นสีเหลืองส่งกลิ่นหอมจึงใส่ตับหมูที่หั่นเตรียมไว้ตามลงไปผัด ผัดให้ตับหมูเริ่มเปลี่ยนสีและมีลักษณะของชิ้นเนื้อตับที่แข็งขึ้นจึงปรุงรสด้วยเครื่องปรุงตามความต้องการ ด้วยการใส่น้ำปลา น้ำตาลทราย ซอสปรุงรส และใส่ซอสหอยนางรม โดยเราสามารถใส่ซอสหอยนางรมให้ใส่มากกว่าส่วนผสมชนิดอื่นที่กล่าวมา เพราะซอสหอยนางรมจะสามารถสร้างความเข้มข้นของเมนูนี้ได้ ทั้งยังผลักรสชาติของความหวานและความเค็มที่มีอยู่ในส่วนผสมของซอสหอยนางรมได้อย่างลงตัว จากนั้นผัดและคลุกเคล้าส่วนผสมทุกอย่างให้เข้ากันดี
5.ใส่ดอกกุยช่ายตามลงไปผัด ผัดจนกระทั่งดอกกุยช่ายสุกและมีลักษณะที่อ่อนลง นั่นคือสัญญาณที่บอกว่าดอกกุยช่ายเริ่มสุกแล้ว จากนั้นหากเห็นว่าผัดของเราแห้งเกินไปก็สามารถเติมน้ำซุปลงไปสักเล็กน้อยได้ เพราะเมนูนี้ควรมีความฉ่ำบ้างเล็กน้อยเพื่อสามารถนำน้ำผัดที่ได้จากผักและความฉ่ำของตับหมูราดลงบนข้าวสวยได้ แต่ขอแนะนำว่าควรเติมน้ำซุปตามลงไปเพียงเล็กน้อยก็พอ เพราะขณะที่เราผัดนั้นน้ำในดอกกุยช่ายและน้ำในตับหมูสดจะถูกดึงดูดออกมาด้วยความร้อนจากการผัดอยู่บ้างแล้ว ดังนั้นเราจึงควรเน้นความฉ่ำของส่วนผสมที่ออกมาเองจะดีกว่าการปรุงเพิ่มเติม อีกทั้งน้ำที่ออกจากวัตถุดิบดังกล่าวนี้จะเพิ่มความหวานแบบธรรมชาติให้เมนูผัดของเราได้ดีกว่าการใส่น้ำตาลอีกด้วย
ข้อแนะนำของเมนูนี้คือ หากใครที่ชอบความเผ็ดหรือรสชาติที่เข้มข้นขึ้นสักหน่อย สามารถนำพริกสดมาทุบและใส่ลงไปร่วมได้ แต่ไม่ควรใส่พริกเยอะเกินไปเพราะจะลดความหอมของดอกกุยช่ายและความฉ่ำของตับหมู ดังนั้นจึงควรใส่พริกสดแค่เพียงเพิ่มความเผ็ดเล็กน้อยเพื่อไม่ให้รสชาติของเมนเมนูนี้เปลี่ยนไปนั่นเอง
ผัดดอกกุยช่ายใส่ตับ เมนูเสริมธาตุเหล็ก บำรุงเลือด